วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

โบสถ์เก่าวัดเซนต์ปอล

วัดเซนต์ปอล

โบสถ์เก่าวัดเซนต์ปอล แปดริ้ว ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ตำบลบางตีนเป็ด อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 
ประตูด้านหน้า ของโบสถ์หันหน้าเข้าหาแม่น้ำบางปะกง อาคารก่ออิฐถือปูน สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างโดยช่าง
ชาวจีน เนื่องจากบริเวณเหนือประตูมีตัวอักษรจีน เขียนไว้อ่านว่า “เทียนจู้เซี๊ยกึ๊ง” เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่า
 “บ้านของพระเจ้า”  บาทหลวงเปอัง (Pean Alexis) เรี่ยไรเงินคริสตชน จนสร้างได้สำเร็จและมีความสวยงาม 
ดังบันทึกซึ่งปรากฏใน Siam et les Missionaires ว่า
 “….เราจำเป็นต้องมีโบสถ์สวยงามสักแห่ง ซึ่งจะเป็นเสมือนการประกาศศาสนาอันศักดิ์สิทธิ์ของเราอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดพวกนอกศาสนาที่มีจิตใจด้วย แต่ในการสร้างโบสถ์สวยงามนั้น จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากและเงินนั้น ข้าพเจ้า บาทหลวงของข้าพเจ้าและพวกคาทอลิกใหม่ จำนวน 600-700 คนไม่มี….” 
เมื่อก่อสร้างโบสถ์เสร็จจึงทำพิธีมหาบูชามิสซาครั้งแรก เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2416 ในสมัยรัชกาลที่ 3

โบสถ์เก่าวัดเซนต์ปอล แปดริ้ว มีลักษณะของโบสถ์ เมื่อแรกสร้างเป็นศิลปะโกธิค (Gothic) ผสมโรมัน (Roman) โดยมีกรวยสองข้างที่หลังคาด้านหน้า ส่วนประตูและหน้าต่างเป็นวงโค้ง ผังพื้นของโบสถ์เป็นรูปไม้กางเขนซึ่งเรียกว่าBasillic มีการฉลองวัดเซนต์ปอลอายุครบ 100 ปี เมื่อวันที่ 5เมษายน 2513 ขณะเดียวกันก็มีการเรี่ยไรเงินเพื่อสร้างโบสถ์ใหม่ จึงได้มีการรื้อถอนโบสถ์หลังเก่า แต่ไม่สามารถรื้อผนังด้านหน้าของโบสถ์ได้ ปัจจุบันวัดเซนต์ปอล
จึงเก็บรักษาผนังด้านหน้าของโบสถ์หลังเก่าไว้เป็นอนุสรณ์ และเป็นแหล่งเรียนรู้ทางสถาปัตยกรรมที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรือง
ของชุมชนในอดีต

(โบสถ์เก่าวัดเซนต์ปอล)

(กำแพงประตูหน้าโบสถ์ ไม่สามารถรื้อถอนได้)

(บันทึกประวัติศาสตร์โบสถ์เก่าเซนต์ปอล แปดริ้ว
อนุสรณ์แห่ง "ศรัทธา สร้างสรรค์ และสืบทอด")

ในสมัยรัชกาลที่ ค.ศ.1749 (พ.ศ.2337) ที่ริมฝั่งของแม่น้ำบางปะกง บริเวณวัดเซนต์แอนโทนี ปัจจุบัน คริสตชน ชาวจีนกลุ่มหนึ่งจากแผ่นดินใหญ่ ประเทศจีน ได้เดินทางเข้ามาเป็นกรรมกรในไร่อ้อย เป็นที่รู้จักกันดี นามหนึ่งว่า "เปโตร ลือ แซ่ซุ้ม" ซึ่งเกิดในสมัย กรมรักษ์รณเรศได้รับโปรดเกล้า ให้สร้างเมืองฉะเชิงเทรา

ปี ค.ศ.1838 (พ.ศ.2381) บาทหลวงปาเลอกัว ได้มาเยี่ยมกลุ่มคริสตชนที่แปดริ้ว และบางปลาสร้อยปี ค.ศ.1872 (พ.ศ.2415) บาทหลสงอันตน ชมิตต์ ได้รวบรวมเงินบริจาค ซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง ณ บริเวณแห่งนี้ และได้สร้างโบสถ์หลังนี้โดยใช้ฝีมือช่างก่อสร้างชาวจีน ที่ปรากฎอยู่ด้วยความยากลำบากโดยทางเรือ การก่อสร้างล้วนแสดงถึงความชำนาญด้วยอิฐที่มั่นคง แข็งแรงและสวยงาม ที่หน้าโบสถ์เขียนอักษรจีน อ่านว่า "เทียงจู้เซี๊ยตึ่ง" (แต้จิ๋ว) (จีนกลาง จะอ่านว่า เทียนจู้ เซิงทั่ง) อันแปลว่า "บ้านศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า"
 
ในปี ค.ศ.1971 (พ.ศ.2514) ได้ทำการรื้อโบสถ์หลังนี้เพื่อปรับบริเวณพื้นที่สร้างโบสถ์หลังใหม่ โดยใช้รถขนาด 10 ล้อ ฉุดผนังส่วนหน้าโบสถ์ให้ล้มลง แต่ทว่า ไม่สามารถรั้งความแข็งแกร่งของผนังโบสถ์ได้ จึงมีผลให้ผนังโบสถ์ที่มีอายุเก่าแก่ส่วนนี้ ยังคงให้เราได้มีโอกาสเห็นคุณค่า และศึกษาประวัติศาสตร์ ชุมชนคริสตชนแห่งนี้ด้วยความภาคภูมิใจต่อไป
(ทวี อานามวัฒน์ บันทึก)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น